วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

1.2 อะตอม

     ดิโมคริตุส (นักปราชญ์ชาวกรีก) ได้กล่าวว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างประกอบขึ้นจาก อนุภาคที่เล็กมาก เล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ อนุภาคเล็กๆ เหล่านี้จะรวมตัวเข้าด้วยกันโดยวิธีการต่างๆ สำหรับอนุภาคนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่สามารถแตกแยกออกเป็นชิ้นส่วนที่เล็กลงไปอีกได้ ดิโมคริตุสตั้งชื่ออนุภาคนี้ว่า อะตอม (Atom) จากภาษากรีกที่ว่า atoms ซึ่งมีความหมายว่า ไม่สามารถแบ่งแยกได้อีก ตามความคิดเห็นของเขา อะตอมเป็นชิ้นส่วนที่เล็กที่สุดของสสารที่สามารถจะคงอยู่ได้



    ต่อมานักวิทยาศาสตร์หลานคน ได้แก่ จอห์น ดอลตัน, เจ เจ ทอมสัน, รัทเทอร์ฟอร์ด และนีลส์ โบร์ ตามลำดับเวลา ได้เสนอทฤษฎีอะตอมโดยอาศัยข้อมูลจากการทดลองที่พอจะศึกษาได้ จนเป็นทฤษฎีอะตอมที่เชื่อถือได้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีใจความดังนี้

 

          อะตอม (Atom) หมายถึง อนุภาคที่เล็กมากๆ ของสสารที่สามารถจะคงอยู่ได้ ไม่สามารถแบ่งออกได้ทางเคมี ประกอบด้วยนิวเคลียส (Nucleus) ที่มีโปรตอน (Proton) ซึ่งมีประจุเป็นบวก (+) และนิวตรอน (Neutron) ซึ่งมีประจุเป็นกลาง รวมกันอยู่ตรงกลาง และอิเล็กตรอน (Electron) มีประจุลบ (-) วิ่งอยู่รอบๆ

 

            อนุภาคมูลฐานของอะตอม  ทุกอะตอมประกอบด้วยอนุภาคที่สำคัญคือ โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน โดยมีโปรตอนกับนิวตรอนอยู่ภายในนิวเคลียส นิวเคลียสนี้จะครอบครองเนื้อที่ภายในอะตอมเพียงเล็กน้อย และมีอิเล็กตรอนวิ่งรอบๆ นิวเคลียสด้วยความเร็วสูง คล้ายกับมีกลุ่มประจุลบปกคลุมอยู่โดยรอบ

 

ตาราง  แสดงข้อมูลของอนุภาคมูลฐานของอะตอมแต่ละชนิด

 

อนุภาค

ประจุ

ประจุ

มวล

มวล

อิเล็กตรอน

-1

1.6 x 10-19

0.000549

9.1096 x 10-28

โปรตอน

+1

1.6 x 10-19

1.007277

1.6726 x 10-24

นิวตรอน

0

0

1.008665

1.6749 x 10-24

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อสอบบทที่ 3

  1.สารชีวโมเลกุลชนิดใดมีมากที่สุดของน้ำหนักแห้งในร่างกายคน 1 : ไขมัน 2 : โปรตีน 3: คาร์ไบไฮเดรต 4 : กรดนิวคลีอิก 2.สารในข้อใดเมื่อนำมาทดสอบ...